“เมื่อเราเอาแต่ตั้งกำแพง โลกอาจได้เจอนักปีนกำแพงผู้เชี่ยวชาญคนใหม่”
ใครตอบได้ว่าผมเขียนสื่อถึงเรื่องอะไร เดี๋ยว Zap ให้เป็นรางวัล 😎
เมื่อครูหวงคอม กับเด็กไม่ยอมแพ้
ในเช้าวันหนึ่งที่ห้องเรียนวิทยาการคำนวณ บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก
ครูเมย์เดินเข้ามาด้วยสีหน้ามั่นใจ เธอวางหนังสือตำราเล่มใหญ่ลงบนโต๊ะและกวาดตามองนักเรียน ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างเสียงดังฟังชัดว่า
“วันนี้เราจะลองทำโจทย์ประมวลผลระดับสูงกัน ใครที่คิดว่าพร้อมลุย เชิญมาหาครูได้เลย”
เสียงเด็กนักเรียนกระซิบกระซาบกันไปทั่ว บ้างกลัวว่าจะยากเกินไป บ้างกระตือรือร้นอยากพิสูจน์ฝีมือ
"หลาม" ยกมือขึ้นทันที ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่น เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ว่าอยากลองทำโจทย์ยากดูสักครั้ง
ครูเมย์หันมาหาเขา ใบหน้าดูเมตตาแต่ก็มีแววลังเล
“อุปกรณ์ในห้องนี้เธอก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่รุ่นใหม่ แถมเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ดี ๆ ครูก็ต้องเก็บไว้ใช้สอน เธอจะสู้ไหวหรือ?”
หลามพยักหน้า แม้ใจจะเต้นรัว แต่เขาก็ตอบกลับด้วยความมั่นใจว่า “ผมอยากลองดูครับ ไม่ว่าคอมจะเก่าหรือจะอืด ผมจะหาทางแก้โจทย์นี้ให้ได้”
ครูเมย์ยิ้มบาง ๆ แล้วออกปากว่า “ตามสบายนะ ถ้าไหวก็ทำเลย ถ้าไม่ไหวเมื่อไรก็มาบอกครู”
หลายคนฟังแล้วเกิดคำถามในใจว่าเหตุใดครูถึงไม่ยอมแบ่งอุปกรณ์ที่แรงกว่ามาให้หลาม
แต่หลามเองกลับไม่พูดอะไรต่อ เขาเดินไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่มีแรมไม่มาก บางฟังก์ชันก็ไม่อัปเดตแล้ว แต่แววตามุ่งมั่นของเขาไม่เคยลดน้อยลง
หลังเลิกเรียน หลามใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องคอมพิวเตอร์ บางครั้งก็อยู่คนเดียว บางครั้งเพื่อนสองสามคนก็แวะมาดู
เขาลองปรับโค้ดไปเรื่อย ๆ แบ่งปัญหาใหญ่เป็นส่วนเล็ก หาวิธีประมวลผลเฉพาะจุดที่จำเป็น ลดการเรียกใช้งานส่วนที่ไม่สำคัญเพื่อประหยัดทรัพยากร ทุกขั้นตอนเป็นการลองผิดลองถูกที่ทั้งสนุก ทั้งท้าทาย
“ทำไมไม่ลองไปขอครูเมย์ใช้เครื่องดี ๆ ดูล่ะ?”
เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยความสงสัย หลามเพียงยิ้มอย่างสุภาพก่อนตอบ “ครูคงไม่ให้ยืมหรอก แต่จะว่าไป หากผมได้ใช้เครื่องแรง ๆ ตั้งแต่แรก ก็คงไม่คิดหาทางแก้ปัญหานี้แบบประหยัดทรัพยากรแบบนี้หรอก”
วันต่อมา ครูเมย์เรียกให้หลามนำเสนอวิธีแก้โจทย์ เขาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่ใคร ๆ ก็สบประมาท และกดรันโปรแกรมที่เขียนขึ้นเอง
ภาพที่ปรากฏคือผลลัพธ์ถูกต้องครบถ้วน และประมวลผลได้เร็วกว่าที่คาดไว้เสียด้วย ครูเมย์ยืนดูด้วยความประหลาดใจ หลายคนในห้องถึงกับฮือฮา คนที่แอบสงสัยในฝีมือของหลามถึงกับตาโต
ครูเมย์เอ่ยชมด้วยน้ำเสียงแฝงความทึ่ง “เธอทำได้ยังไง ทั้งที่ใช้เครื่องเก่ากว่าที่ครูมีเสียอีก”
หลามยิ้มเก้อเขินเล็กน้อยแล้วอธิบายว่า
“ผมลองแบ่งปัญหาออกเป็นส่วนเล็ก ๆ แล้วจัดการเท่าที่จำเป็น ตอนแรกเครื่องช้า แต่พอแก้โค้ดให้เบาลง มันก็เร็วขึ้นอย่างน่าตกใจครับ ผมยังได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ ๆ ที่ผมไม่เคยรู้ด้วย”
เพื่อน ๆ เข้ามาดูโค้ดของหลาม บ้างก็เอ่ยปากชม “สุดยอด” บ้างก็เปิดตามองอย่างไม่เชื่อสายตา
ขณะที่ครูเมย์มองเด็กหนุ่มตรงหน้าและรู้สึกตื้นตันใจ เมื่อเธอคิดถึงท่าทางของเขาในวันที่บอกว่าจะขอใช้เครื่องเก่า แววตาที่ไม่หวั่นเกรงนั้น ตอกย้ำว่าถึงเขาจะถูกจำกัดด้วยเงื่อนไข ก็ยังคงสร้างโอกาสให้ตัวเองได้เสมอ
“ครูดีใจที่เธอทำได้” ครูเมย์กล่าวเสียงแผ่ว แต่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เธอวางมือลงบนไหล่หลามเบา ๆ
“เห็นทีครูควรหันมาดูบ้างแล้วว่าการมีเครื่องมือพร้อม ไม่ได้แปลว่าเราจะพัฒนาไปได้สุด เธอใช้ทรัพยากรน้อย แต่กลับสร้างสิ่งที่มีคุณค่ามากได้”
หลามผงกศีรษะรับ น้ำเสียงของเขาสั่นเล็กน้อยเพราะความดีใจ
“ผมขอบคุณครูนะครับ ที่จริงถ้าครูไม่จำกัดให้ผมต้องใช้เครื่องเก่านี้ ผมคงไม่รู้จักทางลัดใหม่ ๆ ที่ได้จากการลองผิดลองถูก”
วันนั้น นักเรียนทั้งห้องต่างได้รับบทเรียนสำคัญว่า การมีพร้อมทุกอย่างอาจทำให้เราไม่จำเป็นต้องคิดพลิกแพลง
แต่เมื่อถูกปิดกั้นหรือลิดรอน สิ่งที่ตามมาคือแรงผลักดันให้เรา “สร้าง” หรือ “หา” วิธีการใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพเกินคาด
ดังคำที่ใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า “ยิ่งกำแพงสูงเท่าไร ก็อาจยิ่งกระตุ้นให้นักปีนกำแพงท้าทายตนเองมากขึ้น”
และหลามคือตัวอย่างของนักเรียนผู้ปีนกำแพงดังกล่าวด้วยความมานะและความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง
#Siamstr