🌟สูญญตาคืออะไร?
“สูญญตา” (Śūnyatā, शून्यता) เป็นแนวคิดสำคัญในพุทธศาสนา โดยเฉพาะใน พุทธศาสนามหายาน และ เซน ซึ่งหมายถึง ความว่างเปล่า หรือ การไม่มีตัวตนที่แท้จริง ของสรรพสิ่ง
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
“ภิกษุทั้งหลาย! สรรพสิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! เมื่อบุคคลพิจารณาโดยปัญญาอันชอบแล้ว ย่อมเห็นด้วยปัญญาว่าสรรพสิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตา เมื่อนั้น ย่อมหน่ายในทุกข์ นำไปสู่การหลุดพ้น”
(พระไตรปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน 1.10)
แนวคิดนี้แสดงให้เห็นว่า ทุกสิ่งไม่มีตัวตนที่แท้จริง ทุกสิ่งที่เราเห็น สัมผัส และยึดมั่น ล้วนเป็นเพียง “ภาพลวง” ที่ถูกสร้างขึ้นโดยปัจจัยแห่งเหตุและปัจจัย
ตามคำสอนของ นาคารชุน (Nāgārjuna) ซึ่งเป็นปราชญ์สำคัญของพุทธศาสนามาธยมิกะ (Mādhyamaka) สูญญตาหมายถึง
• สรรพสิ่งไม่มีตัวตนที่คงที่หรือถาวร (Anatta – อนัตตา)
• ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากปัจจัยปรุงแต่ง (ปฏิจจสมุปบาท, Pratītyasamutpāda)
• ไม่มีสิ่งใดที่สามารถดำรงอยู่ได้โดยลำพัง แต่ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเปลี่ยนแปลง
🌟พระพุทธองค์ตรัสถึง ปฏิจจสมุปบาท ว่า
“เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ”
(พระไตรปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค 12.1)
ดังนั้น สูญญตาไม่ได้หมายถึง “ความไม่มี” (nihilism) แต่เป็น ภาวะที่เกินกว่าความมี-ความไม่มี
🌟Implicate Order คืออะไร?
Implicate Order (ระเบียบซ่อนเร้น) เป็นแนวคิดของ David Bohm นักฟิสิกส์ควอนตัม ซึ่งเสนอว่า
• เอกภพมีสองระดับของการดำรงอยู่
1. Implicate Order (ระเบียบซ่อนเร้น) – เป็นมิติพื้นฐานที่ข้อมูลทุกอย่างเชื่อมโยงกันแบบองค์รวม
2. Explicate Order (ระเบียบที่ปรากฏ) – เป็นสิ่งที่เราเห็น รับรู้ และวัดได้ในโลกแห่งประสบการณ์
Implicate Order คือโครงสร้างพื้นฐานที่ ทุกสิ่งเชื่อมโยงกันในระดับที่มองไม่เห็น และเป็นแหล่งที่มาของ Explicate Order ที่เรารับรู้
🌟ทำไมสูญญตาเปรียบได้กับ Implicate Order?
1. ทั้งสองแนวคิดปฏิเสธการมีอยู่ของ “ตัวตนที่แท้จริง”
• สูญญตาบอกว่า “สรรพสิ่งไม่มีตัวตนที่แท้จริง” และดำรงอยู่ตามเงื่อนไข
• Implicate Order บอกว่า “สิ่งที่เราเห็นในโลกภายนอกไม่ใช่ความเป็นจริงสุดท้าย” แต่เป็นเพียงภาพสะท้อนของกระบวนการที่ซ่อนเร้น
พระพุทธองค์ตรัสว่า
“เปรียบเหมือนฟองน้ำและฟองคลื่นในสายน้ำ เมื่อพิจารณาให้ดีแล้วย่อมเห็นว่ามิใช่ของจริง”
(พระไตรปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน 7.9)
เช่นเดียวกัน Bohm กล่าวว่า สิ่งที่เรารับรู้ใน Explicate Order เป็นเพียงภาพลวงของโครงสร้างที่ลึกซึ้งกว่า
2. ความเชื่อมโยงของทุกสรรพสิ่ง
• สูญญตาอธิบายว่า ไม่มีสิ่งใดแยกขาดจากกัน (ปฏิจจสมุปบาท)
• Implicate Order อธิบายว่า ทุกสิ่งสัมพันธ์กันในระดับที่มองไม่เห็น
ในพุทธศาสนา โลกถูกเปรียบเทียบเป็นดั่ง “พญาอินทร์ทอดตาข่าย” (Indra’s Net) ซึ่งแต่ละจุดเชื่อมโยงถึงกัน ไม่มีสิ่งใดดำรงอยู่ได้โดยลำพัง
“บุคคลพึงเห็นโลกดั่งฟองน้ำ ดั่งภาพลวงตา เมื่อพิจารณาด้วยปัญญา ย่อมพ้นจากอำนาจแห่งมาร”
(พระไตรปิฎก ขุททกนิกาย ธรรมบท 170)
3. Explicate Order คล้ายกับโลกสมมติของปุถุชน
• ในพุทธศาสนา โลกที่เรารับรู้ถูกเรียกว่า “โลกสมมติ” (สมมติสัจจะ) ซึ่งเป็นเพียงเงาของความจริงที่ลึกซึ้งกว่า
• Bohm กล่าวว่า Explicate Order เป็นเพียงสิ่งที่ถูก “กางออกมา” จาก Implicate Order คล้ายกับเงาที่ฉายจากความจริงที่ลึกกว่า
พระพุทธองค์ตรัสว่า
“เปรียบเหมือนดวงจันทร์ที่สะท้อนในสายน้ำ ผู้เขลาเข้าใจว่าจันทร์อยู่ในน้ำนั้น แต่แท้จริงแล้วจันทร์หาได้อยู่ที่นั่นไม่”
(พระไตรปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน 8.2)
4. ความว่างเปล่าและศักยภาพที่ไร้ขอบเขต
• สูญญตาไม่ได้หมายถึง “ความว่างเปล่าแบบสูญสิ้น” แต่เป็น “ความว่างที่มีศักยภาพไร้ขีดจำกัด”
• Implicate Order เป็นมิติที่ ศักยภาพทั้งหมดของเอกภพถูกเข้ารหัสไว้ และสามารถแสดงผลออกมาเป็น Explicate Order
พุทธองค์ตรัสว่า
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย! เธออย่าได้ยึดมั่นแม้แต่ความว่างเปล่า เพราะแม้ความว่างเปล่าก็ยังเป็นเพียงเครื่องหมายหนึ่งในสังขาร”
(พระไตรปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค 22.95)
เช่นเดียวกับแนวคิดของ Bohm ที่ว่า “Implicate Order เป็นพื้นฐานที่ทำให้ทุกสิ่งปรากฏ” แต่ แม้แต่ Implicate Order ก็ยังอาจเป็นเพียงอีกระดับหนึ่งของความจริงที่ลึกกว่านั้น
สรุป
สูญญตาและ Implicate Order มีแนวคิดร่วมกันคือ
✅ ปฏิเสธการมีอยู่ของตัวตนที่คงที่
✅ ทุกสิ่งสัมพันธ์กันและปรากฏขึ้นจากโครงสร้างที่ลึกกว่า
✅ สิ่งที่เรารับรู้เป็นเพียง “ผลลัพธ์” ของกระบวนการที่ซ่อนอยู่
หากพิจารณาในเชิงเปรียบเทียบ
• Implicate Order = สูญญตา (ระดับปรมัตถสัจจะ – ความจริงขั้นสูงสุด)
• Explicate Order = โลกสมมติที่เรารับรู้ (สมมติสัจจะ – ความจริงเชิงสัมพันธ์)
ดังนั้น “สิ่งที่เราคิดว่าเป็นจริง อาจเป็นเพียงภาพสะท้อนของบางสิ่งที่ลึกซึ้งกว่า”
#Siamstr #science #quantum #Biology #nostr #ธรรมะ #พุทธศาสนา